InfoQuest – นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.35 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก ปิดตลาดเมื่อเย็นวันจันทร์ที่ระดับ 34.20 บาท/ดอลลาร์ โดยดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักเนื่องจากได้รับแรงหนุนจากบ อนด์ยีลด์ที่สูงขึ้น ทั้งที่ตัวเลขดัชนี ISM ออกมาต่ำกว่าคาด และฟิทช์ลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศน่าจะมีแรงหนุนจากผู้นำเข้าทองคำ หลังราคาในตลาดโลกลดลงกว่า 30 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่การ ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่าจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% แต่ต้องรอดูว่าจะส่งสัญญาณเรื่องทิศ ทางดอกเบี้ยในอนาคตอย่างไร “บาทอ่อนค่าจากเย็นวันจันทร์ ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก นักลงทุนอาจปรับพอร์ตหลังดอลลาร์อ่อนค่าเร็วเกิน ไป ทั้งที่ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาไม่ค่อยดี” นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.20 – 34.50 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 34.37750 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 143.11 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันจันทร์ที่ระดับ 142.40/50 เยน/ดอลลาร์ – เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0993 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันจันทร์ที่ระดับ 1.1020/1030 ดอลลาร์/ยูโร – อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.259 บาท/ดอลลาร์ – คณะกรรมกานนโยบายการเงิน (กนง.) ประชุม ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า กนง. มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2.25% – “ธปท.” คาด ภาพรวมสินเชื่อครึ่งปีหลังขยายตัว ต่อเนื่องจากภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวแต่ยังมีความเปราะบาง ต้องติดตาม คุณภาพหนี้ “เอสเอ็มอี-ครัวเรือน” ใกล้ชิด “กรุงไทย” ชี้ แม้สินเชื่อ ยังเติบโต แต่อาจชะลอลง หากเทียบกับที่ผ่านมา หลังภาคส่งออกวูบ – กรมเจรจาการค้าฯ ได้เข้าร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจ 3 เวทีสำคัญ ได้แก่ อาเซียน-สหราชอาณาจักร (ยู เค) ครั้งที่ 4 อาเซียน-รัสเซีย ครั้งที่ 15 และอาเซียน-กรรมาธิการยุโรปด้านการค้า ครั้งที่ 31 ที่อินโดนีเซีย เมื่อกลางเดือน ก.ค.ที่ ผ่านมา เพื่อติดตามความคืบหน้าแผนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกัน รวมถึงการเตรียมการสำหรับการประชุม รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับยูเค รัสเซีย และกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า ในช่วงเดือน ส.ค.นี้ – รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่ขณะนี้ ยังไม่มีความคืบหน้า และถ้าล่าช้าออกไปมาก เกิดสุญญากาศนานเกินไป จะกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจที่เป็นแหล่งการจ้างงานและ การลงทุน ทั้งเพื่อขยายธุรกิจหรือลงทุนใหม่ – สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ โดยระบุว่าสหรัฐมียอดขาดดุลงบ ประมาณที่สูงมากและมีระบบธรรมาภิบาลที่อ่อนแอลง ซึ่งส่งผลให้เผชิญกับปัญหาหนี้พุ่งชนเพดานหลายครั้งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา – สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ประจำเดือนมิ.ย. พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี นับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564 – ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (1 ส.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด – สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 30 ดอลลาร์ในวันอังคาร (1 ส.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศ ทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) – นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผย ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค.จาก ADP และวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนในวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงาน จะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนก.ค.
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest