InfoQuest – นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.18 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 34.32 บาท/ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยบวกเรื่องการท่องเที่ยว ประกอบกับวันนี้มีนักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรราว 800 ล้านบาท ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหว 34.11 – 34.38 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวผสมรอปัจจัยใหม่ในช่วงท้าย สัปดาห์ “เงินบาทผันผวนมาก ระหว่างวันหลุดกรอบแข็งค่าลงมา โดยมีปัจจัยบวกเรื่องวีซ่าฟรีระหว่างไทยกับจีน และยอดนักท่องเที่ยว ต่างชาติปี 66 ที่มากเกินเป้า วันนี้ตลาดหุ้นบวกอาจมาจากต่างชาติกลับมาลงทุน” นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.00 – 34.30 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ – เงินเยนอยู่ที่ระดับ 141.47 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 141.24 เยน/ดอลลาร์ – เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1019 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1035 ดอลลาร์/ยูโร – ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,433.38 จุด เพิ่มขึ้น 17.53 จุด, +1.24% มูลค่าซื้อขาย 43,272.05 ล้านบาท – สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,388.14 ล้านบาท – คณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยและจีนไม่ต้องใช้วีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศเป็นการ ถาวรตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.67 ถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ – รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยยอดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในปี 66 มีจำนวนทั้งสิ้น 28,042,131 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 151% สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.2 ล้านล้านบาท – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2566 เหลือ 2.5% จากเดิมเมื่อเดือนต.ค.66 ที่ระดับ 3% หลัง GDP ไตรมาส 3/66 ขยายตัวเพียง 1.9% ต่ำกว่าคาด ไว้, จำนวนนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวได้ช้ากว่าคาด, แรงขับเคลื่อนทางการคลังที่ลดลงจากผลที่ยังไม่มี พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ทำให้การใช้จ่ายในส่วนของการอุปโภค-บริโภค และการลงทุนภาครัฐยังไม่เกิดขึ้น – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวมเดือน ธ.ค.66 อยู่ที่ระดับ 49.1 ทรงตัวใกล้ เคียงกับเดือน พ.ย.66 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.0 โดยความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อ ผลประกอบการ และการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่ด้านการจ้างงาน และการลงทุนปรับลดลง – ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 45,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาด การณ์ที่ว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) จะอนุมัติการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ในเดือนนี้ – รัสเซียโหมโจมตีกรุงเคียฟด้วยชุดขีปนาวุธหลายระลอกในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนของเช้าวันนี้ ส่งผลให้ไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ และมีเศษซากมิสไซล์ที่ถูกยิงตกกระจายไปทั่วบริเวณ – นักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งในหลายประเทศเช่นสหรัฐและไต้หวัน โดยเฉพาะการเลือกตั้งไต้หวันที่นักลงทุนให้ความสนใจ มากเป็นพิเศษ เพื่อประเมินว่าจีนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อผลการเลือกตั้งในไต้หวัน ส่วนการเลือกตั้งในสหรัฐนั้น คาดว่าหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งและกลับสู่ทำเนียบขาวได้อีกครั้ง ก็อาจจะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงและส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น เนื่อง จากนักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับนโยบายการค้าของนายทรัมป์
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest