InfoQuest – นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.46 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับ ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.45 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทแกว่งในกรอบกว้าง ระหว่างวันเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 34.43-34.62 บาท/ดอลลาร์ โดยในช่วงเช้าเงินบาท ปรับตัวอ่อนค่า เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่พอช่วงบ่าย บอนด์ยีลด์ปรับตัวลดลงประกอบ กับดัชนี PMI ภาคบริการของยูโรโซนเดือนธ.ค. ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด จึงทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง คืนนี้ ตลาดรอดูการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยเฉพาะจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการ จ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค. นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันพรุ่งนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.40 – 34.60 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 143.78 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 143.36 เยน/ดอลลาร์ – เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0965 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0918 ดอลลาร์/ยูโร – ดัชนี SET ปิดวันนี้ 1,434.59 จุด เพิ่มขึ้น 4.97 จุด (+0.35%) มูลค่าซื้อขาย 47,635.81 ล้านบาท – สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 627.51 ล้านบาท – นายกรัฐมนตรี ยืนยันความจำเป็นในการก่อสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ พร้อมระบุว่ารัฐบาลไม่ได้เพิกเฉยต่อเสียงสะท้อน ของคนในพื้นที่ โดยจะสำรวจความคิดเห็นจากทั้งภาคประชาชน และประชาสังคม ตลอดจนนักธุรกิจในพื้นที่ เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการนี้ จะ เป็น “เมกะโปรเจ็กท์” ที่มีความสำคัญโครงการหนึ่งของโลก – กรมธุรกิจพลังงาน เผยภายรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ย 11 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ย.66) อยู่ที่ 152.24 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 0.9% จากช่วงเดียวกันของปี 65 ส่วนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยอยู่ที่ 1.049 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 5.7% คิดเป็นมูลค่า 97,253 ล้านบาท/เดือน ขณะที่การส่งออก เฉลี่ยอยู่ที่ 178,232 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่า 18,780 ล้านบาท/เดือน – การโจมตีเรือในทะเลแดงยังคงผลักดันอัตราค่าระวางเรือทะเลให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จุดชนวนความกังวลเกี่ยวกับเงิน เฟ้อและการขนส่งสินค้าที่ล่าช้า – เกาหลีใต้ ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 2567 ลงเหลือ 2.2% จากเดิมคาดไว้ ที่ 2.4% และปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อขึ้นเป็น 2.6% ต่กเดิทึ่ด 2.3% โดยให้เหตุผลว่า แม้เศรษฐกิจเกาหลีใต้จะแข็งแกร่งขึ้น กว่าปีที่ผ่านมา แต่ยังคงเผชิญอุปสรรคจากอุปสงค์ในประเทศ และความเป็นอยู่ของประชาชน เนื่องจากเงินเฟ้อและดอกเบี้ยยังอยู่ใน ระดับสูงอย่างต่อเนื่อง – สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (INSEE) รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อเบื้องต้นในฝรั่งเศสเดือน ธ.ค.66 ขึ้นไป แตะระดับ 4.1% เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย.66 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.9% ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น มีสาเหตุหลักมาจากราคาพลังงานและ ราคาสินค้าในภาคบริการที่ปรับตัวขึ้น – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนธ.ค.66 ของยูโรโซน แตะระดับ 48.8 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest