InfoQuest – ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (16 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนปรับลดน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังแข็งค่าหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 4%
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.74% แตะที่ระดับ 103.357
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้น 0.11% สู่ระดับ 4.064% หลังจากนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่จะเป็นการปรับลดอย่างระมัดระวังและไม่รวดเร็วตามที่ตลาดคาดการณ์
“ในวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมา เฟดดำเนินการอย่างรวดเร็วและปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวนมาก แต่ในรอบนี้ ผมยังไม่เห็นเหตุผลที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเหมือนในอดีต ผมมองว่าตราบใดที่เงินเฟ้อไม่ดีดตัวขึ้นและทรงตัวในระดับสูง เฟดจะสามารถปรับลดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ แต่จะดำเนินการอย่างเป็นระบบและอย่างระมัดระวัง” นายวอลเลอร์กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากการแสดงความเห็นของนายวอลเลอร์ นักลงทุนได้ปรับลดน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 63.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนัก 76.9%
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 35.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักเพียง 19.0%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ เฟดสาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดิ่งลงสู่ระดับ -43.7 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -4.0 จากระดับ -14.5 ในเดือนธ.ค. โดยดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก
นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)
ส่วนในวันพฤหัสบดีจะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนธ.ค. สำหรับในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest