InfoQuest – นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 35.35 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใกล้เคียง ปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.36 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทเช้านี้ทรงตัวจากเมื่อเย็นวาน ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยน แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร หลังตัวเลข เศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนออกมาค่อนข้างดี โดยปัจจัยหลักที่ตลาดรอดู คือ ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีมติ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม แต่จะส่งสัญญาณเรื่องทิศทางดอกเบี้ยในอนาคตอย่างไร ส่วนปัจจัยในประเทศ ตลาดรอดูการรายงานภาวะเศรษฐกิจการเงิน จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคำวินิจฉัย ของศาลรัฐธรรมนูญในคดีที่กล่าวหานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ล้มล้างการปกครองกรณีเสนอแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งอาจทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองขึ้นได้ หากคำวินิจฉัยสามารถนำไปยื่นคำร้องให้ยุบพรรค “ทิศทางบาทวันนี้ น่าจะแกว่งตัวในกรอบไปตามปัจจัยที่เข้ามา แต่ปัจจัยหลัก ตลาดรอดูผลประชุมเฟดคืนนี้” นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.20 – 35.50 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
– เงินเยนอยู่ที่ 147.34 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 147.51 เยน/ดอลลาร์ – เงินยูโรอยู่ที่ 1.0845 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0817 ดอลลาร์/ยูโร – อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.343 บาท/ดอลลาร์ – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจการเงิน ของเดือน ธ.ค.66 – ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เสนอนโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 112 ถือเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ – ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (30 ม. ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และข้อมูลแรงงานหลายรายการของสหรัฐใน สัปดาห์นี้ – สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (30 ม.ค.) หลังจากกองทุนการเงินระหว่าง ประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ในตะวันออก กลางที่มีแนวโน้มตึงเครียดมากขึ้น – สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (30 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลง ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณว่าคณะกรรมการเฟด จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด – กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) เมื่อวาน นี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้ จะขยายตัว 3.1% โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และมาตรการกระตุ้น ด้านการคลังของจีน – ผลสำรวจของ Conference Board ระบุดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 114.8 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุด นับตั้งแต่เดือนธ.ค.64 จากระดับ 108.0 ในเดือนธ.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 115.0 – สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐ เผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 101,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 9.026 ล้าน ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 8.750 ล้านตำแหน่ง – ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ได้แก่ ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการ ผลิตเดือนม.ค.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค.จาก NBS, เยอรมนีเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค. และอัตราว่างงานเดือนม.ค. และสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP, สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนัก งานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest