InfoQuest – นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.46/47 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 35.52 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 35.43 – 35.56 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทระหว่างวันยังไม่มีปัจจัยใหม่ โดยเงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ ยังเป็นปัจจัยต่อ เนื่องจากเมื่อคืนนี้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่าจะไม่ลดดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย และจำนวนผู้ขอรับ สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ของสหรัฐฯ นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.35 – 35.65 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ – เงินเยน อยู่ที่ระดับ 146.82/86 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 146.80 เยน/ดอลลาร์ – เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0798/0802 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0808 ดอลลาร์/ยูโร – SET ปิดวันนี้ที่ 1,367.96 จุด เพิ่มขึ้น 3.44 จุด (+0.25%) มูลค่าซื้อขาย 42,001.69 ล้านบาท – สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,086.79 ล้านบาท – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวม เดือนม.ค. 67 อยู่ที่ 48.0 ลดลงจาก 49.1 ในเดือนธ.ค. 66 ตามการลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านต้นทุน สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิต ปรับ ลดลงในเกือบทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มการค้าที่ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อลดลงมาก หลังจากเร่งไปในช่วงเทศกาลปลายปี – ผลสำรวจ FTI CEO Poll ในเดือน ม.ค. 67 หัวข้อ “ดอกเบี้ยสูง หนี้พุ่ง อุตสาหกรรมไปต่ออย่างไร” โดยผู้บริหาร ส.อ.ท. ค่อนข้างมีความกังวลกับการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะดำเนินนโยบายคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% เป็น ระยะเวลานาน ซึ่งต้องเข้าใจว่าที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้พยายามอย่างมาก ที่จะสร้างสมดุลในการบริหารนโยบาย การเงินของประเทศ ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจ และการเสริมสร้างเสถียรภาพของค่าเงินบาท แต่ดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลกระทบค่อนข้าง มากกับผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในประเทศที่มีสัดส่วนมากสุด และกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 และ ต้องเร่งปรับธุรกิจเพื่อรับมือกับปัญหาต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นเกือบทุกตัวในช่วงปีที่ผ่านมา – บมจ.ท่าอากาศยานไทย (BK:AOT) คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร ช่วงเทศกาลตรุษจีนวันที่ 5 – 14 กุมภาพันธ์ 2567 ประมาณ 3,523,929 คน เฉลี่ย 352,393 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 20% และมีเที่ยวบิน 21,115 เที่ยวบิน เฉลี่ย 2,112 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่ม ขึ้น 16.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน – กรมการค้าต่างประเทศ คาดการณ์ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยว่า เป้าหมายการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ จะอยู่ที่ 7.5 ล้านตัน – สภาทองคำโลก (WGC) คาดการณ์ว่า ความต้องการทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในปี 2567 เนื่องจาก สถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในหลายประเทศจะเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ WGC ยังคาด การณ์ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะเดินหน้าซื้อทองคำเข้าสู่ระบบทุนสำรอง ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำ – นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อเดือนม.ค.ของยูโรโซน และการแถลงมติ อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ตลาดให้น้ำหนักการคาดการณ์ว่า BoE จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ระดับ 5.25% ใน การประชุมนโยบายวันนี้ โดยนักลงทุนจะเฝ้าจับตาถ้อยแถลงของผู้กำหนดนโยบายเพื่อประเมินทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest