ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.96 ระหว่างวันแกว่งไซด์เวย์ ก่อนกลับมาทรงตัวจากช่วงเช้า

InfoQuest – นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 35.96 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากระดับ เปิดเมื่อเช้านี้ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.89 – 35.98 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทแกว่งออกข้าง โดยในช่วงที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ประกาศ GDP ออกมาแย่กว่าคาด ส่งผลให้เงินบาทมีการอ่อนค่าลงชั่วคราว แต่โดยรวมทั้งวันยังไซด์เวย์ “วันนี้สกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสมๆ โดยเงินบาทแข็งค่าสุดในภูมิภาค ปัจจัยยังคงเคลื่อนไหวตามดอลลาร์ ส่วนคืนนี้ ตลาดสหรัฐฯ หยุด ตลาดจึงอาจจะเบาบาง” นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.85 – 36.10 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ – เงินเยนอยู่ที่ 149.93 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 149.94 เยน/ดอลลาร์ – เงินยูโรอยู่ที่ 1.0774 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0778 ดอลลาร์/ยูโร – ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,387.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.06 จุด (+0.08%) มูลค่าซื้อขาย 31,776.98 ล้านบาท – สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,210.14 ล้านบาท – สภาพัฒน์ ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 67 เหลือโต 2.2-3.2% จากเดิมคาดโตราว 2.7-3.7% หลัง ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 66 ขยายตัวได้ 1.9% ชะลอตัวลงจากการขยายตัว 2.5% ในปี 65 ตามการลดลงต่อเนื่องของภาคการส่งออก รวมทั้งการลดลงของการใช้จ่ายของรัฐบาล และการลงทุนภาครัฐ ส่วนตัวเลข GDP ในไตรมาส 4/66 ขยายตัวได้ 1.7% – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ในปี 2566 สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์หดตัวเล็กน้อยที่ 0.3% จากระยะ เดียวกันปีก่อนจากการทยอยชำระคืนหนี้ของภาคธุรกิจหลังเร่งขยายตัวต่อเนื่องเพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงโควิด โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ธุรกิจขนาดใหญ่ภาคอุตสาหกรรม และภาครัฐ กอปรกับมีการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ของธนาคารพาณิชย์ – มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับลดคาดการณ์การส่งออกของไทยปี 67 ลงมาเหลือเติบโต 2.5% จากเดิมเคยคาดว่าจะ เติบโตได้ราว 3% เนื่องจากขณะนี้มองว่าช่วงครึ่งปีหลังยังมีความเสี่ยงจากเงินบาทที่มีแนวโน้มกลับมาแข็งค่าขึ้นจากที่อ่อนค่าลงไปมากใน ช่วงต้นปี นอกจากนี้ เหตุการณ์โจมตีเรือขนส่งสินค้าของกบฏฮูตีในบริเวณทะเลแดง (คลองสุเอซ) ยังคงยืดเยื้อส่งผลให้ค่าระวางเรือเพิ่ม สูงขึ้น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงมีข้อจำกัดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งนี้ ประเมินว่าการส่งออกในปี 67 จะมีมูลค่า 291,676 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 2.5% หรืออยู่ในช่วง2-3% หรือมีมูลค่า 290,253 ถึง 293,099 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ – นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีกระแสข่าวว่าการเมืองจะร้อนขึ้น และจะมีการปรับ ครม.เร็วๆ นี้ ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการพักโทษ – ผู้เชี่ยวชาญในตลาดปริวรรตเงินตรา เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในปี นี้ ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่จะเป็นปัจจัยหนุนสกุลเงินในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งได้แก่เงินหยวนของจีน เงินวอนของ เกาหลีใต้ และเงินรูปีของอินเดีย

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest