ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.10 ทรงตัวจากช่วงเช้า จับตาแรงกดดันลดดอกเบี้ยมีมากขึ้น - Interstellar Group Thailand
Skip to content

Interstellar Group

ในฐานะผลิตภัณฑ์การซื้อขายทางการเงินที่ซับซ้อน สัญญาส่วนต่าง Contracts for Difference (CFDs) มีความเสี่ยงสูงอย่างมากเนื่องจากคุณสมบัติของเลเวอเรจ บัญชีลูกค้าของนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่มักบันทึกการสูญเสียเงินลงทุนในสัญญาส่วนต่างอย่างรวดเร็ว คุณควรพิจารณาว่า คุณมีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การดำเนินงานของสัญญาส่วนต่าง และสามารถรับความเสี่ยงสูงของการสูญเสียเงินลงทุนได้หรือไม่    

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.10 ทรงตัวจากช่วงเช้า จับตาแรงกดดันลดดอกเบี้ยมีมากขึ้น

ISG
ประกาศ

เราขอแนะนำให้คุณปฏิบัติตามประกาศทางการตลาดของเรา

.right_news

A WORLD LEADER

IN FX & CFD TRADING

ตลาด
ข่าว

ข้อมูลทางการเงินทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงและข่าวตลาดโลก

A WORLD LEADER

IN FX & CFD TRADING

การสนับสนุน &
ความรับผิดชอบต่อสังคม

InterStellar Group มีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทชั้นนำ และมีพลังในการสร้างผลกระทบที่ดีต่อโลก
นอกจากนี้เรายังมุ่งมั่นที่จะตอบแทนสังคม โดยตระหนักถึงคุณค่าของทุกคนเป็นส่วนสำคัญของชุมชนระดับโลกของเรา

A WORLD LEADER

IN FX & CFD TRADING

การสัมนาสดเกี่ยวกับฟอเร็กซ์

A WORLD LEADER

IN FX & CFD TRADING

21

2024-02

Date Icon
2024-02-21
การคาดการณ์สภาวะตลาด
ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.10 ทรงตัวจากช่วงเช้า จับตาแรงกดดันลดดอกเบี้ยมีมากขึ้น

InfoQuest – นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.10 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้า เปิดตลาดที่ระดับ 36.10 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทระหว่างวันยังเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่า ในกรอบ 36.08-36.19 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งหลักๆ มาจากปัจจัยที่ตลาดยัง ย่อยข่าว GDP ไตรมาส 4/66 และทั้งปี 66 ของไทย ที่ออกมาต่ำกว่าคาดไปค่อนข้างมาก นอกจากนี้ ตลาดยังมองว่ามีแรงกดดันมากขึ้น จากรัฐบาลส่งไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้พิจารณาปรับลด อัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงการขอให้จัดประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดพิเศษ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการประชุมรอบ ปกติ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 เม.ย.67 “เชื่อว่า กนง.จะยังคงจุดยืน โดยไม่มีการจัดประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณาเรื่องดอกเบี้ย” นักบริหารเงิน ระบุ สำหรับคืนนี้ ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ เนื่องจากสหรัฐฯ วันนี้ทั้งตลาดเงิน ตลาดหุ้น และตลาดสินค้า โภคภัณฑ์ ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.95 – 36.25 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 150.29 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 150.25 เยน/ดอลลาร์ – เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0794 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0768 ดอลลาร์/ยูโร – ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,381.07 จุด ลดลง 6.26 จุด (-0.45%) มูลค่าซื้อขาย 40,457.10 ล้านบาท – สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 92.96 ล้านบาท – รัฐบาลเคาะแล้ว งบกว่าร้อยล้านบาท จัดใหญ่ “Maha Songkran World Water Festival เย็นทั่วหล้ามหา สงกรานต์ ปี 2567” ระหว่างวันที่ 11-15 เม.ย. 67 ในกรุงเทพฯ และพื้นที่อัตลักษณ์ในอีก 5 ภูมิภาค เพื่อร่วมอนุรักษ์และสืบทอด ประเพณีไทย กระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยตั้งเป้าหมายจะมีนักท่อง เที่ยวเข้าร่วมงาน ประมาณ 2 แสนคน สร้างรายได้เป็นมูลค่า 3,125 ล้านบาท – สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการออกพันธบัตรสกุลเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Bond) โดยเบื้องต้น ประเมินว่าจะออกในวงเงิน 500-1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือน มี.ค.นี้ เพราะจะต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่า, ต้นทุน, ความเสี่ยง รวมถึงข้อกฎหมายต่าง ๆ ให้รอบด้าน ก่อนที่จะเสนอให้ รมว.คลัง พิจารณา – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผย ข้อมูลล่าสุด นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ตั้งแต่ต้นปี – 18 ก. พ.67 อยู่ที่ 5,217,379 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายประมาณ 2.54 แสนล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวจาก 5 ประเทศ ที่เดินทางเข้า มาไทยสูงสุด ได้แก่ จีน รองลงมา คือ มาเลเซีย, รัสเซีย, เกาหลีใต้ และอินเดีย ตามลำดับ – กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เตรียมอนุญาตให้บริษัทธุรกิจเงินร่วมลงทุน และกองทุนเพื่อการลง ทุน สามารถถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptoassets) ได้โดยตรง หลังจากที่ทางการญี่ปุ่น ตกลงที่จะยื่นร่างแก้ไขกฎหมายเพิ่มขีดความ สามารถในการแข่งขันทางอุตสาหกรรม – ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.พ. โดยระบุว่า กรรมการส่วนหนึ่งของ RBA สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก เมื่อพิจารณาจากเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง แต่กรรมการอีกส่วนหนึ่งมองว่า RBA ควรจะคง อัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงไม่แน่นอน – ซิตี้ (Citi) คาดการณ์ว่า ราคาทองคำอาจทะยานขึ้นสู่ระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และราคาน้ำมันมีสิทธิ์พุ่งขึ้นสู่ ระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ภายในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า หากเกิดปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งจากทั้งหมด 3 ปัจจัยที่เป็นไปได้ คือ ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ซื้อทองคำเพิ่ม หรือเกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เงินเฟ้อพุ่ง (Stagflation) หรือเกิดภาวะเศรษฐกิจ โลกถดถอยรุนแรง

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ล่าสุด
ข่าว